ไหนๆ ชีวิตก็มีค่า (ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบัตรฯ) แถมชีวิตประจำวันเราๆ ท่านๆ ก็ต้องใช้จ่ายอยู่แล้ว แต่ “แนวคิด” จะทำเช่นไร ให้ทุการใช้จ่ายเพิ่มค่า
ยิ่งทุกวันนี้ เศรษฐกิจตึงตัว เงินฝืดจัด หากหลัการ “กระสุนนัดเดียว ได้นกตัวสองตัว” นำมาใช้ในการจับจ่ายได้ก็จะดี
เมื่อเร็วๆ นี้ สะดุดกับแนวความคิดทางการตลาดของโปรเจคต์หนึ่งที่น่าสนใจ นั่นคือข่าวที่ว่าบัตรกดเงินสดยูเมพลัส (Umay+) ชวนขาช้อปฯ เพิ่มมิติ ช้อปฯ ทุกการใช้จ่ายแล้วได้กุศลอีก โดยชวนร่วมโครงการ Umay+ Build Smile “ยิ้มสดใส…ไปด้วยกัน” ช้อปฯ การกุศลหารายได้สมทบทุนชวนๆ น้องที่ต้องเผชิญโรคปากแหว่งเพดานโหว่กลับมามีรอยยิ้มอย่างมั่นใจ
อย่างแรก ซื้อกระเป๋า PAY IT FORWARD Two-Tone ราคา 50 บาท อย่างที่สอง ออกบัตรใหม่ เลือกดีไซน์บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส PAY IT FORWARD รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกบัตรใหม่ 100 บาท เพื่อนำไปใส่ กล่องรับบริจาค วิธีที่สาม คือ สมัครบัตรใหม่ ทุกการสมัคร บริษัทฯจะสมทบทุนบริจาค 1 บาท ซึ่ง รายได้ทั้งหมด นำไปสมทบทุนบริจาคเพื่อสนับสนุนงานคลินิกเคลื่อนที่ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะผ่านทางสภากาชาดไทยต่อไป
เมื่อมีโครงการฯ ที่พูดถึงการทำกุศลอย่างนี้ สิ่งแรกที่ผู้จัดต้องมีคือความน่าเชื่อถือ รูปแบบงานแถลงข่าวโครงการฯ จึงเกิดขึ้น พร้อมๆ กับเชิญหน่วยงานที่รับมอบ คือ สภากาชาดไทย รวมถึง สื่อมวลชน และนักแสดงที่มีชื่อเสียงร่วมงาน
พร้อมบอกกล่าวถึงความเป็นมา ซึ่งที่จริงแล้วโปรเจคต์ Umay+ “PAY IT…FORWARD” (ยูเมะพลัส “ส่งต่อ…ความห่วงใย”) ได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เป็นโครงการยาว ใช้ระยะเวลาหนึ่งปีในการดำเนินการและรวบรวม ซึ่งปีที่แล้ว (ปี 5) มีรายได้ถึง 9,000,000 บาท พร้อมจัดพิธีมอบสภากาชาดไทยอย่างตรงไปตรงมาด้วย
ความต่อเนื่อง น่าเชื่อถือ และเป็นกิจกรรมที่ไม่เบียดบังกับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันมาก เพราะไหนๆ เราก็ต้องใช้ “เครดิต” ในการดำเนินชีวิตอยู่แล้ว หากการใช้จ่ายจะเพิ่มค่า เป็น เงิน ของ หรือ ทำการกุศล ทำไมจะไม่ทำ จริงหรือไม่???
แคมเปญดังกล่าวจึงนับได้ว่าเป็นมิติใหม่ ได้ช้อปฯ ยกกำลังสอง คือได้ “ของ” ได้ “กุศล” ใครสนใจก็ร่วมสนุกกับกิจกรรมนี้ได้ ไม่เหลือบ่าฝ่าแรง
ตามข่าวกิจกรรมนี้ได้ทาง https://www.facebook.com/umayplusofficial