เมืองร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 7-10 สิงหาคม ณ เทศบางเมืองร้อยเอ็ด จ. ร้อยเอ็ด กำลังจะเกิดปรากฎการณ์ด้านการศึกษา ครั้งสำคัญ คือ การเป็นเจ้าภาพจัดงาน “มหกรรมการศึกษาท้องถิ่นระดับประเทศ” ที่จัดสืบเนื่องมาเป็นครั้งที่ 11 ประจำปี 2562 ภายใต้แนวคิด โอกาสแห่งการเรียนรู้ (Opportunity Learning) ที่ 3 หัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ร่วมมือกันจัดงาน ได้แก่ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด , นายทวี เสริมภักดีกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และ นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด การันตีความพร้อม จะเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ทุกคนได้พัฒนาศักยภาพที่เหมาะสมของตนเองได้ ทั้งภาษา วัฒนธรรม ฯลฯ ช่วยกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ใช้เทคโนโลยีดิจิตอลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรอบด้าน นักเรียนต้องฉลาดเลือกข้อมูลนำไปใช้ในการพัฒนาตนเอง เรียนรู้ได้ตลอดชีวิตและยั่งยืน นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีผู้ชมที่หลั่งใหลมาเป็นนักท่องเที่ยวงานทั้ง 4 วันประมาณ 1.5 หมื่นคน เพิ่มจากยอดนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดร้อยเอ็ดเมื่อปีที่แล้วที่มีราว 1.5 ล้านคน
ครบครันทั้ง “ วิชาการ และ ความบันเทิง” ในงานเดียว
นอกจากพัฒนาแห่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพื่อสร้างเสน่ห์ให้จังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว นายบรรจง นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ดก็ขยันขันแข็งในการผลักดันด้านการศึกษาของเด็กๆ ในระดับท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ดให้พัฒนาไปพร้อมกันด้วย นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ดประกาศถึงความพรัอมในการเป็นเจ้าภาพ จัดงาน “มหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่น ระดับประเทศ ครั้งที่ 11 ในงานแถลงข่าว ที่จัดขึ้น ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ โดยวัตถุประสงค์การจัดงานก็เพื่อเผยแพร่ผลงานการจัดการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ประชาชนและผู้ปกครองทั่วประเทศได้มั่นใจว่า ท้องถิ่นมีความสามารถในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ ให้มีพัฒนาการที่ดีในทุกๆ ด้าน ตลอดจนเป็นการยกระดับให้มีคุณภาพได้มาตรฐานดียิ่งขึ้น
“ ภายในปี 2564 เราเปิดโอกาสให้ประชากรผู้อยู่ในเขตพื้นที่รับบริการ ทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัยได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ ตลอดจนครู และบุคลากรมีความเป็นมืออาชีพ สามารถใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ และทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมตามหลักธรรมาภิบาล ปีนี้ร้อยเอ็ด เมืองเกินร้อย ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ซึ่งในงานจะมีการแข่งขันทักษะด้านต่าง ๆ รวมถึงโครงงาน ผลงานครูผู้สอนใช้สนามแข่งขันทั้งหมด 5 สนาม ได้แก่ 1. บึงพลาญชัย ณ ลานสาเกตนคร ซึ่งถือเป็นแลนมาร์คที่จะแสดงนิทรรศการวิชาการและวัฒนธรรม 5 ภาคมารวมไว้ด้วยกัน พร้อมกิจกรรมการแข่งขัน และกิจกรรมพิเศษมากมาย “
และที่พิเศษสุดที่ทุกคนไม่ควรพลาดคือ การฟังเสวนาวิชาการ ในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่ง เป็นการรวมกันของวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ อาทิ รองศาสตราจารย์ ดร.เอกชัย ที่สุขพันธุ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน , ศาสตราจารย์ วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และดร.ตวง อันทะไชย สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะมาร่วมพูดคุยในหัวข้อ “การจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ” วันเดียวกันในช่วงบ่าย มารับฟังแรงบันดาลใจดี ๆ จากคนบันเทิงและนักกีฬาระดับทีมชาติในหัวข้อ “วัยฝัน การศึกษา สู่ความสำเร็จ” ได้แก่ นายแพทย์ เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช หรือริท เดอะสตาร์ น้องมิลค์-เด็กหญิงวรรรญา วรรณผ่อง แชมป์การแข่งขันโดรนระดับโลกและ นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย อีกด้วย
ไม่หมดแค่นั้น ยังสนุกไปกับ Play Land พื้นที่แห่งโอกาส “ความฝันที่ยิ่งใหญ่มักเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ เสมอๆ ผู้ที่มางานจะได้พบเมล็ดพันธุ์และโอกาสแห่งการเรียนรู้การศึกษา พัฒนาการ ผลงานของเด็กๆ วัฒนธรรมชุมชน ที่ถูกร้อยเรียงและบูรณาการเป็นนิทรรศการที่มีชีวิต ให้ทุกคนรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้รูปแบบนอกตำราเรียน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง สนามแข่งขันคัดลายมือ คอมพิวเตอร์ และหุ่นยนต์ รวมทั้งกิจกรรม ณ สาเกต ฮอลล์ สนามแข่งขันร้องเพลงลูกทุ่งพร้อมแดนเซอร์ และเพลงพระราชนิพนธ์ สำหรับพิธีเปิดและปิดเวทีแห่งเกียรติยศของงานจะจัดขึ้นที่ โรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้นท์ รวมถึงพิธีรับโล่รางวัล และสนามการแข่งขันการแสดงละครภาษาจีนและภาษาอังกฤษครบครัน เป็นต้น
ด้าน นายทวี เสริมภักดีกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นผู้ทำหน้าที่กำหนดยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาการท้องถิ่น ปีนี้อยู่ในแผนพัฒนา 4 ปี คือ แผนพัฒนาการศึกษาท้องถิ่น ปี 2560-2564 ภายใต้แนวคิด “ประชาชนในท้องถิ่นได้เรียนรู้ตลอดชีวิต ด้วยพลังประชารัฐ บนพื้นฐานความเป็นไทย ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีทักษะในทศวรรษที่ 21 ดำรงชีวิตอย่างมีความสุขยั่งยืน”
“ ที่ผ่านมาเราค่อนข้างพอใจภาพรวมการศึกษาท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของเรา ได้รับมอบหมายให้ดูแลการศึกษาระดับปฐมวัยเรามีโรงเรียนจำนวน 1 หมื่น 8 พันโรง เด็กเล็กไม่ใช่การเรียนโดยตรงแต่เป็นการดูแลการเตรียมความพร้อมให้เขาพร้อมไปสู่การเรียนในอนาคต เสริมพัฒนาการให้ร่างกายจิตใจ สังคม อารมณ์ของเด็กนี่คือจุดประสงค์หลักของเรา โตขึ้นมาเป็นการศึกษาภาคบังคับมีหลายหน่วยงานกำกับดูแล เช่น สพฐ.(สำนักงานคณะการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) เอกชน จะมีการพัฒนา เช่น มีการวัดผลการศึกษา โอเน็ต มีการทดสอบ แม้จะพบว่าผลการทดสอบการปกครองส่วนท้องถิ่นทำคะแนนได้ระดับกลาง ๆ เมื่อเทียบกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น เอกชน หรือสพฐ. แต่อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มที่ดีในการพัฒนาการด้านการศึกษาของเรา เพราะข้อดีขององค์กรส่วนท้องถิ่นก็คือ โรงเรียนของเราได้ เราสามารถตั้งงบประมาณรายได้ประจำปี สนับสนุนการศึกษาประจำปีได้เอง เราจะปรับปรุงจุดอ่อนสำหรับการศึกษาระดับท้องถิ่น เราต้องพัฒนาคุณภาพ ทั้งผู้สอนหรือครูต้องได้รับการฝึก ส่งอบรมเสริมทักษะต่าง ๆ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน หลายโรงเรียนให้การส่งเสริม มีห้องเรียนพิเศษสอนด้านภาษา มีบุคลากรที่มีประสบการณ์ มีทักษะเข้ามาสอนเด็กๆ 2. เรามีหลักสูตรที่ได้มาตรฐาน แต่ทำอย่างไรให้หลักสูตรนั้นเหมาะสมกับเด็กนักเรียนที่มาเรียนกับเรา เพราะเด็กมีพื้นฐานไม่เหมือนกัน เช่น เด็กที่ฐานะดีก็เลือกเรียนในโรงเรียนที่ได้มาตรฐานในเมือง มีเงินไปสอบ ในทางกลับกันเด็กๆ ด้อยโอกาสที่การศึกษาส่วนท้องถิ่นต้องเข้าไปดูแลโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน
เราต้องพัฒนาทั้งครูและเด็กไปพร้อมๆ กัน ขณะเดียวกันโรงเรียน ต้องลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ เช่นสอนให้เขาช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น เสริมงานเกษตร ปศุสัตว์ คหกรรมเพื่อให้เขาสามารถประกอบอาชีพได้ด้วย ไม่ใช่ให้เรียนรู้แต่วิชาการอย่างเดียว สำหรับผลงานคะแนนสอบอาจจะเป็นเพราะคุณภาพของเด็กที่อยู่ในชนบท ซึ่งแตกต่างจากเด็กที่มีฐานะดีเข้าไปเรียนโรงเรียนในเมือง ดังนั้นนำภาพรวมโรงเรียนประจำจังหวัดคะแนนการสอบของเด็กจะดีกว่า แต่เราไม่ได้กังวลมากเกี่ยวกับเรื่องผลคะแนน ปัจจัยสำคัญคือ เราต้องการให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีคุณธรรมและมีทักษะอาชีพไปพร้อมๆ กัน”
เสน่ห์เมืองร้อยเอ็ด
นับเป็นสถิติที่น่าชื่นใจที่เมื่อปีที่แล้ว จังหวัดร้อยเอ็ดมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวที่จังหวัดร้อยเอ็ด มากถึง 1.5 ล้านคน และระหว่างการจัดงานมหกรรมการศึกษาท้องถิ่น ระดับประเทศ ครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 7 ถึง 10 สิงหาคม วันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 1.5 หมื่นคน
“ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะมีคนหลั่งไหลเข้ามาในร้อยเอ็ดช่วงจัดงานถึง 1 หมื่น 5 พันคนอย่างน้อย ทั้งผู้เข้าแข่งขัน ผู้มาร่วมงานและญาติพี่น้อง เราเตรียมการวางแผนการอำนวยความสะดวกไว้พร้อมแล้ว เพราะเราจัดงานใหญ่ระดับประเทศอยู่หลายครั้ง เช่น งานบุญพระเผวก งานบุญที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค หรือแม้แต่งานลอยกระทง เป็น 1 ในงานลอยกระทงที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุน ฉะนั้นจังหวัดร้อยเอ็ดจึงเตรียมพร้อมรับผู้เข้าร่วมงานอย่างเต็มที่ ”
ไม่เพียงแต่ผู้มาเที่ยวงานจะได้เต็มอิ่มไปกับกิจกรรมด้านการศึกษาท้องถิ่นระดับประเทศเท่านั้น นักท่องเที่ยวยังสามารถดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของจังหวัดร้อยเอ็ดที่เป็นเมืองเก่า มีประวัติศาสตร์ มีภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี ซึ่งถือว่ามีความหลากหลายที่จะให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้ศึกษา
“ ร้อยเอ็ดมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ทุ่งกุลาร้องไห้ ในสัดส่วน เกือบ 100 % เต็ม นอกจากนี้เรายังมีแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม เช่น วัดปรางค์กู่ หรือปราสาทหนองกู่ ตำบลมะอึอำเภอ ธวัชบุรี มีวัดบูรพาภิรามเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญเดิมชื่อ วัดหัวรอ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อ มาเป็นวัดบูรพาภิรามมีพระพุทธรูปปางประทานพร ที่สูงที่สุดในประเทศไทยคือ พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี นอกจากนี้เรายังมีสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ดเป็นสวนสาธารณะกลางเมือง อยู่หน้าศาลา กลางจังหวัด มีเนื้อที่ประมาณ 225 ไร่ ตกแต่งบริเวณด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ จุดเด่น ของสวนแห่งนี้อยู่ที่น้ำพุบริเวณใจกลางสวนที่พุ่งฉีดในระดับสูงมีหอนาฬิกากลางเมืองสวยเด่นเป็นสง่า เรามีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น ผาหมอกมิวาย ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม มีข้าวหอมมะลิ มีสินค้าโอทอปผ้าไหมสาเกตที่มีลายทอเฉพาะของจังหวัดร้อยเอ็ด และอีกมากมาย เช่น ถั่วป่านทอ ที่จะพร้อมรองรับผู้มาเยือน ประชาชนชาวร้อยเอ็ด มีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับแขกผู้มาเยือน ”
ด้วยจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นเมืองที่ไม่มีภูเขาหรือน้ำตกรายรอบ จำเป็นต้องสร้างสรรค์แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามด้วยสมองของมนุษย์ เช่น “ร้อยเอ็ด 7 ย่านอาร์ต ” เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่อื่นๆ อาจมีสตรีทอาร์ต คลองหรือ Canal art แต่จังหวัดร้อยเอ็ดก็สร้างสรรค์ได้เด็ดไม่แพ้จังหวัดอื่น ๆ
“ เราปั้นเกษตรกรรมศิลป์ เช่น ศิลปะจากแปลงข้าว โดยเราให้เกษตรจังหวัดเช่าแปลงนาของชาวบ้านในอำเภอธวัชบุรี เพื่อปลูกข้าวยายกล่ำซึ่งมีสีดำ ผสมกับข้าวหอมมะลิสีเหลืองทอง โดยใช้ข้าวสีดำปลูกเป็นตัวอักษร ร.10 ทรงพระเจริญเพื่อร่วมเฉลิมฉลองวโรกาสสำคัญของปวงชนชาวไทยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่นาที่เครื่องบินจะบินผ่านพอดี มองจากด้านบนจะสวยงามมาก เรามีพระอารามหลวงตามหาบัว เป็นงานศิลป์อีกรูปหนึ่ง
เราเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว เราจะนำทุกอย่างไปบรรจุในหอโหวต คือสิ่งปลูกสร้างให้มีลักษณะคล้ายเครื่องดนตรีที่ขึ้นชื่อของอีสาน เรามีสวนสมเด็จย่า เราจะทำบึงธวัชชัยเป็นสวนของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา และเรากำลังทำสวนอื่นๆ เพื่อสร้างพื้นที่ท่องเที่ยวสมัยใหม่ เพราะจังหวัดเราไมได้เต็มไปด้วยธรรมชาติ เช่น น้ำตก หรือภูเขา ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวเราต้องสร้างเอง นี่คือเป็นมิติใหม่แห่งการท่องเที่ยวร้อยเอ็ด เรากำลังมีหอโหวต สูง 101 เมตร มี 36 ชั้น สามารถมองวิวได้ 360 ประเทศจีนมาออกแบบอาคารให้ คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนธันวาคมปี 62 แล้วจะกราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพมาทำการเปิด มีทั้งร้านอาหาร จุดชมเมือง ร้านกาแฟ โดยทรงมีรับสั่งแนะนำว่า ข้างในใส่อะไร ผมตอบหลายอย่าง เช่น สินค้าโอทอป พระองค์รับส่งให้ดูให้ดีอย่างให้สแปะสปะนะ ซึ่งเราก็ต้องออกแบบให้ดี นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวและข้าวหอมมะลิที่โด่งดังระดับโลก เรากำลังพยายามจะเป็นศูนย์การผลิตอินทผาลัมระดับประเทศ ที่อำเภอเกษตรพิสัย ปลูกอยู่ในทุ่งกุลาดากถึง 200 ไร่ ให้ผลผลิตที่มีรสชาติอร่อย หวาน กรอบ มีสินค้าแปลรูปน้ำอินทผาลัม รสชาติอร่อยมาก ผลิตแค่กินในประเทศไม่พอแล้ว มีแผนขยายการปลูกเพราะได้ราคาดี ”
อย่างไรก็ดี นายบรรจงนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ดยังกล่าวทิ้งท้ายว่า “ณ วันนี้ เรามีความพร้อมมากครับ เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ได้วางแผนและดำเนินการมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งสถานที่จัดงาน สนามแข่งขัน รวมถึงช่องทางข่าวประชาสัมพันธ์ต่างๆ เส้นทางการเดินทาง โรงแรมที่พัก และร้านอาหาร รวมถึง สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในวันงานจะได้พบกับ ริช เดอะ สตาร์ และเหล่า คณะกรรมการตัดสิน ศิลปิน พิธีกร ดารา ระดับแนวหน้าเมืองไทยกว่า 10 ชีวิต ที่จะมาร่วมสร้างสีสันในงานทุกท่านสามารถติดตามความคืบหน้า และรายละเอียดการจัดงาน ต่างๆ ได้ทาง Facebook มหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่น ครั้งที่ 11 เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ในโอกาสนี้ จึงขอเชิญ พี่น้องชาวร้อยเอ็ดเรา ทุกภาคส่วนได้ร่วมเป็นเจ้าภาพต้อนรับแขกบ้าน แขกเมือง จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยที่จะมาร่วมงาน มหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่น ระดับประเทศ ครั้งที่ 11 ประจำปี 2562 ในวันที่ 7-10 สิงหาคม 2562”
