พันธุ์ไทย เปิดตัว “กาแฟดริปพันธุ์ไทย” จาก 10 Coffee Master นักอนุรักษ์ คอลเลคชันจากธรรมชาติ

บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เปิดตัว ‘กาแฟดริปพันธุ์ไทย’ โชว์คอนเซปต์ ‘Dripple Effect – ดริป…สร้างชีวิตไม่รู้จบ’ จากการรวมตัวของ ‘10 Coffee Master’ แถวหน้าของวงการกาแฟไทย พร้อมเชิญศิลปินคนรุ่นใหม่ร่วมดีไซน์งานอาร์ตบนกล่องบรรจุภัณฑ์ บอกเล่าเรื่องราวของทุกหยดกาแฟที่ขับเคลื่อนพลังดีๆ กระจายออกไปไม่รู้จบ สร้างโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงชีวิตที่ ‘อยู่ดี มีสุข’ นำไปสู่การสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม พร้อมส่งเสริมการฟื้นฟูธรรมชาติ สร้างพื้นที่ป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ ยกระดับในทุกภาคส่วนของธุรกิจกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำถึงน้ำถึงปลายน้ำ โดยมีเกษตรกรผู้สร้างสรรค์กาแฟคุณภาพ คุณโสภา ดอยอมก๋อย คุณเอก สุวรรณโณ คุณแดง  ดูลาเปอร์ คุณอัคคเดช เปียวชมภู่ และคุณแสนชัย จูเปาะ รวมทั้งอาร์ทติสท์ไทย คุณโบ้ม วิศัลย์ศยา ลอยไสว          ผู้สร้างสรรค์งานศิลปะบนแพคเกจจิ้ง มาร่วมงาน

คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี เผยวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมว่า “PTG มุ่งมั่นถ่ายทอดแนวคิด ‘ให้คิดเรื่องกาแฟเป็นเรื่องสุดท้าย ให้คิดเรื่องป่าเป็นเรื่องแรก’ โดยมีภารกิจในการส่งเสริมศักยภาพของเกษตรกร ด้วยแนวทางการปลูกกาแฟควบคู่กับการอนุรักษ์ป่าไม้ ซึ่งในปี 2566 PTG ร่วมมือกับ กรีโนเวท ส่งเสริมเกษตรกรในตำบลปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ผ่าน “โครงการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟอาราบิกาบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน” ซึ่งเน้นการปลูกกาแฟที่กลมกลืนกับระบบนิเวศป่าไม้ พร้อมพัฒนาพื้นเขาหัวโล้น ให้กลายเป็นพื้นที่ป่ากาแฟที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งแนวทางนี้ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ป่าไม้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้การเกษตรและการอนุรักษ์ดำเนินควบคู่กันไปได้ โดยตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน มีเกษตรกรเข้าร่วม 24 ราย ปลูกกาแฟ 68,000 ต้น บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ปัจจุบันมีการส่งเสริมการปลูกกาแฟไปแล้ว 1,400 ไร่ รวม 420,000 ต้น โดยมีเกษตรกรกว่า 400 รายเข้าร่วม โดยมีเป้าหมายคือการรับซื้อกาแฟสารให้ได้ 8,000 ตัน จากพื้นที่กว่า  55,000 ไร่ เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรกว่า 10,000 ครัวเรือน ภายในระยะเวลา 5 ปีนี้”

“ล่าสุด PTG ยังดำเนินงานแบบบูรณาการร่วมกับ 3 หน่วยงานในการพัฒนาพื้นที่ป่า และส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยร่วมมือกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ในด้านการส่งเสริมองค์ความรู้ให้กับเกษตรกร ร่วมมือกับ กรมป่าไม้ ในการจัดหาพื้นที่ปลูกกาแฟ ไม่น้อยกว่า 50,000 ไร่ ต่อเนื่อง 3 ปี และร่วมมือกับ ธ.ก.ส. ด้านการสนับสนุนแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมกับเกษตรกร โดยกาแฟอาราบิก้าจากความร่วมมือดังกล่าว จะถูกส่งตรงไปยังร้านกาแฟพันธุ์ไทย โดยรับซื้อผลผลิตตามคุณภาพ ปริมาณ และราคาอย่างเป็นธรรม ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมรักษาสิ่งแวดล้อมให้สมดุลและยั่งยืน” คุณพิทักษ์ กล่าวเสริม

กาแฟมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์ป่าไม้ เพราะนอกจากจะช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า ลดความเสี่ยงจากการเกิดน้ำท่วม ด้วยการมีต้นไม้ และดินดูดซับน้ำ นอกจากนี้กาแฟยังสามารถช่วยลดปัญหาการทำไร่เลื่อนลอย ที่ก่อให้เกิดมลพิษ ฝุ่นควัน PM 2.5 จากการเผาป่า การปลูกกาแฟจึงสามารถช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ และระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ที่สำคัญผลผลิตของกาแฟยังสามารถให้ผลตอบแทนในระยะยาวถึง 10 – 20 ปี และมีรายได้ที่ดีกว่าพืชชนิดอื่น จึงช่วยสร้างอาชีพ และความเป็นอยู่ที่ดีให้ชุมชน ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืนต่อไป

คุณสุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า “PTG         คือต้นน้ำ ในการวางรากฐานของการอนุรักษ์ฟื้นฟูผืนป่าให้สมบูรณ์ และส่งเสริมการปลูกกาแฟให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ กาแฟพันธุ์ไทย คือปลายน้ำในการรับซื้อผลผลิตของเกษตรกร ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้คนในชุมชน สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ โดยไม่ต้องจากถิ่นฐานบ้านเกิดไปทำงานในเมืองใหญ่ สร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปพร้อมๆ กัน”

“สำหรับ กาแฟดริปพันธุ์ไทย คอลเลคชันนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก‘10 นักสร้างสรรค์กาแฟไทย’ ที่มีจุดร่วมเดียวกันคือ การสร้างคุณค่าให้กับผืนป่า เพราะพันธุ์ไทยมองว่า กาแฟ ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องดื่ม แต่เป็นของขวัญจากธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการบ่มเพาะทุกเมล็ดพันธุ์จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การปลูก การคัดสรร การผลิตอย่างละเมียดละไม พิถีพิถัน จนได้รสชาติ และกลิ่นหอมที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมส่งต่อพลังการขับเคลื่อนผ่านดริปทุกหยดของกาแฟ สร้างแรงกระเพื่อมสิ่งดีๆ ให้ชีวิตมากมาย สร้างชีวิต สร้างรายได้ ให้เกษตรกรและชาวบ้าน สร้างพื้นที่ป่า ฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาอุดมสมบูรณ์เป็นหยดของวงคลื่นที่สร้างพลังดีๆ กระจายออกไป สานต่อความตั้งใจสู่มรดกแห่งความยั่งยืนให้กับคนรุ่นหลังจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป” คุณสุขวสา กล่าวเสริม

นอกจากนี้ พันธุ์ไทยยังได้ร่วมงานกับศิลปินคนรุ่นใหม่มากความสามารถ คุณโบ้ม – วิศัลย์ศยา ลอยไสว นักวาดภาพประกอบอิสระที่รู้จักกันในชื่อ Linghokkalom มาสร้างสรรค์งานศิลปะบนแพคเกจจิ้ง เพื่อสื่อสารคอนเซ็ปต์ Dripple Effect ได้อย่างลงตัว “รู้สึกดีใจและขอบคุณที่ทางกาแฟพันธุ์ไทยชวนมาร่วมงานในโปรเจ็คนี้ เป็นอีกงานที่สนุกมากๆ ตลอดการทำงาน ภูมิใจที่ผลงานอยู่ตามสาขาทั่วประเทศ โดยแรงบันดาลใจในการคิดงานมาจากคาแรคเตอร์ของพี่ๆ Coffee Master ทั้ง 10 ท่าน ที่มีเอกลักษณ์ อุดมการณ์ และวิธีการทำงานกับกาแฟที่น่าสนใจ จึงใช้รสชาติ เทสโน้ต ประกอบกับวิถีชีวิต แนวคิด และจุดเด่นของพี่ๆ มากำหนดโทนสี และเล่าเรื่องราวผ่านภาพให้กาแฟทั้ง 10 มีความโดดเด่นร่วมกัน โดยมีโจทย์ ดริป…สร้างชีวิตไม่รู้จบ และถ่ายทอด Dripple Effect ที่สื่อสารให้เห็นว่ากาแฟทุกหยดส่งต่อพลังความยั่งยืนจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้างแรงกระเพื่อมให้ชีวิตมากมาย สร้างชีวิต สร้างรายได้ ให้เกษตรกร และชาวบ้าน สร้างพื้นที่ป่าและฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ เป็นกาแฟรักษ์โลกเพื่อคนรุ่นใหม่ จากนักทำกาแฟไทย เพื่อคอกาแฟทุกคน”

เทศกาลปีใหม่นี้ พันธุ์ไทยขอมอบของขวัญที่เต็มไปด้วยความหมาย อิ่มเอมใจทั้งผู้ให้และผู้รับด้วย “กาแฟดริปพันธุ์ไทย” จากแรงบันดาลใจในความรักถิ่นฐานบ้านเกิด และความผูกพันกับธรรมชาติของ 10       นักสร้างสรรค์กาแฟไทย ที่ตั้งใจส่งมอบเอกลักษณ์กาแฟไทยทั้ง 10 รสชาติ พร้อมกลิ่นหอมละมุน ดื่มด่ำความอบอุ่นในทุกแก้ว กับแพ็คเกจจิ้งดีไซน์สวยในคอนเซปป์ Dripple Effect ดริป…สร้างชีวิตไม่รู้จบ มี 2 แบบให้สะสม หรือมอบเป็นของขวัญให้คนที่คุณรัก

#พันธุ์ไทย #PunthaiCoffee #กาแฟดริปพันธุ์ไทย #PunthaiDripCoffee #ดริปสร้างชีวิตไม่รู้จบ #DrippleEffectCoffee

เกี่ยวกับ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด

กาแฟพันธุ์ไทย เป็นหนึ่งในธุรกิจ Non-Oil ในเครือบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผู้ให้บริการสถานีน้ำมันพีที กาแฟพันธุ์ไทยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2555 ปัจจุบันก้าวเข้าสู่ปีที่ 12 เปิดให้บริการกว่า 1,126 สาขาทั่วประเทศ ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่มีอัตลักษณ์และเสน่ห์ของความเป็นไทย มี Brand DNA ที่สะท้อนความเป็นไทยอย่างชัดเจน พันธุ์ไทยใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100 % จากภาคเหนือของไทย โดดเด่นด้วยเมนูเครื่องดื่มที่รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพ รสชาติอร่อยไม่เหมือนใครและหาทานได้ยาก พร้อมสนับสนุนเกษตรกร ให้ ‘อยู่ดีมีสุข’ โดยการจัดหาวัตถุดิบท้องถิ่นจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เช่น น้ำตาลดอกมะพร้าวจากอัมพวา ตาลโตนดจาก จากสงขลา ส้มมะปี๊ด จากจันทบุรี ชาอัสสัม จากน่าน เป็นต้น ควบคู่การอนุรักษ์ธรรมชาติและดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน