กระแสอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมไทยกำลังมาอย่างแรง ล่าสุดในวงการ “มวยไทย” มีบิ๊กเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวแคมป์เรียลลิตี้ฝึกมวยไทยกลางกรุงเป็นครั้งแรก กลางลานพาร์คพารากอน เลยครับ (นึกใจใน ต้องใช้เงินเท่าไหรเนี่ย)
ประมาณวันที่ 29 มี.ค. มีงาน “เปิดแคมป์กลางกรุง มุ่งสู่การค้นหา สุดยอดนักมวยไทย หนึ่งเดียวในสังเวียน” “อะเมซิ่งมวยไทยแชมป์เปี้ยน 2018 ” ท่ามกลางความอึ้ง สนใจ เพราะอยู่ๆ มีเวทีมวยมาตั้งตระหง่านกลางกรุง ข้างในเหมือนแคมป์มวยต่างๆ ไม่มีผิด พร้อมมีพร๊อพเป็นน้องๆ นักมวย เตะต่อยกันเต็มที่ด้วย แน่นอนว่า FC ต่างชาติเพียบ (นึกในใจ ดีเหมือนกันแฮะ ทางพารากอน จัดอะไรแปลกๆ ตาแบบนี้บ้าง แทนที่จะมีงานหรูหรา ลัคชัวรี่อย่างเดียว)
งานนี้ผู้จัดคือ สถาบันการพลศึกษา ร่วมกับ เอเอ็มที 888 กรุ๊ป หาสปอนเซอร์เป็นภาคเอกชน วัตถุประสงค์ที่เนรมิตลานพารากอนเป็ฯแคมป์มวยก็ 1. เพื่อค้นหาสุดยอดนักมวยไทย หนึ่งเดียวในสังเวียน 2.เน้นทักษะการต่อสู้ด้วยท่าทางที่ถูกต้องของมวยไทย, อนุรักษ์แม่ไม้มวยไทยอีกหลายท่า ให้นำกลับมาใช้ใหม่ ไม่เลือนหาย (จากเดิมที่มีกว่า 600 ท่า) แต่ตอนนี้ ใช้กันอยู่ไม่กี่ท่า บางท่าแม้กระทั่งนักมวยอาชีพ ก็ไม่รู้จัก ทำไม่ได้ (อันนี้จุก ยังไงสายแข็งมวยไทย ช่วยๆ ดันกันหน่อยนะคะ)
- พร้อมปลุกกระแสมวยไทยเชิงอนุรักษ์ให้คงอยู่เป็นสมบัติชาติต่อไป ฯลฯ จึงนำเสนอเป็นเรียลลิตี้ แคมป์ฝึกมวยกลางลานพารากอน ทุ่มต่อเพิ่มอีก อบรมและสอนโดยโค้ชนักมวยทีมชาติ คุณสามารถ พยัคฆ์อรุณ, คุณเจริญทอง เกียรติบ้านช่อง, คุณสมรักษ์ คำสิงห์, คุณขาวผ่อง สิทธิชูชัย พร้อมตัดสิน ชกกันสดๆ ตลอดสามวัน ตั้งแต่ วันที่ 29—31 มีนาคม 2561 ได้รับความสนใจ ฝรั่งมุงตั้งแต่วันแรก
ส่วนนิทรรศการจะมีแนวความคิดในการจัดงานว่า “มวยไทยถือเป็นสมบัติของชาติเราอย่างหนึ่ง มีเอกลักษณ์ ศิลปวัฒนธรรมเฉพาะตัว ดังนั้นการทำรายการฯ นี้ขึ้นก็เพื่ออนุรักษ์ศิลปะแม่ไม้มวยไทย โดยที่ผ่านมาจะเห็นการแข่งขันเยอะ แต่เป็นลักษณะการเอาชนะ และความบันเทิง ยังไม่มีเวทีใดที่เน้นฝึกฝนและมอบทักษะ ท่าทางที่ถูกต้องให้กับผู้ชม ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของรายการฯ ซึ่งร่วมกับ สถาบันการพลศึกษา ในการที่จะผลักดัน และรณรงค์เรื่องมวยไทยให้อยู่ต่อไป เป็นสมบัติชาติ เพราะแน่นอนว่าเราคงไม่ชอบใจ ถ้าที่สุดแล้ววันหนึ่งครูสอนมวยไทยไม่ใช่คนไทยขึ้นมา” สุดยอด ปรบมือ รัวววว
โค้ชประจำรายการ พูดผ่านเวที แต่ละคน ออร่ายังเปล่งปรากย สมรักษ์ คำสิงห์, เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง, สามารถ พยัคฆ์อรุณ, ขาวผ่อง สิทธิชูฝรังชัย เผยว่าครั้งนี้ถือเป็นเวทีประวัติศาสตร์ เพราะรวมพลังมาเทรนด์เต็มที่ เพื่อผู้ชมจะได้รับทั้งความรู้ ความบันเทิง แก่นแท้ของศิลปะแม่ไม้มวย แม่ไม้เฉพาะที่ฝึกมีเอกลักษณ์ ศิลปวัฒนธรรมเฉพาะตัว ดังนั้นการทำรายการฯ นี้ขึ้นก็เพื่ออนุรักษ์ศิลปะแม่ไม้มวยไทย โดยที่ผ่านมาจะเห็นการแข่งขันเยอะ แต่เป็นลักษณะการเอาชนะ และความบันเทิง ยังไม่มีเวทีใดที่เน้นฝึกฝนและมอบทักษะ ท่าทางที่ถูกต้องให้กับผู้ชม อีกอย่างภารกิจร่วมกันคืออยากผลักดัน และรณรงค์ศิลปะมวยไทยให้อยู่ต่อไป เป็นสมบัติชาติ แน่นอนว่าเราคงไม่ชอบใจ ถ้าที่สุดแล้ววันหนึ่งครูสอนมวยไทยไม่ใช่คนไทยขึ้นมา
งานครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนจดลิขสิทธิ์ทางปัญญาพร้อมปลุกกระแสอนุรักษ์มวยไทย ภายในแคมป์เปิดให้ทุกคนเข้าชมได้ฟรี แบ่งออกเป็น 4 โซน โซนแรก นิทรรศการเข็มขัดแชมป์ ของทั้งสี่โค้ช เรื่องราว แมทช์ที่ประทับใจ,
โซนที่สอง เวทีมวยขนาดใหญ่ ตรงกลาง สำหรับการฝึกซ้อมของนักมวยแต่ละทีม ซึ่งหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันรวม 24 คน 6 รุ่น
โซนที่สาม ห้องฝึกซ้อมของนักมวยแต่ละทีม แบ่งเป็นห้องๆ พร้อมครูผู้ช่วยประจำทีม ในการดูแลของทั้ง 4 โค้ชที่วางแผนการชกให้ลูกทีม (ต้องบอกก่อนว่าผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน ไม่ใช่นักมวยไทยอาชีพ เป็นบุคคลที่มีทักษะและรักกีฬามวยไทย พร้อมจะฝึกฝน)
และสุดท้าย โซนที่สี่ ของที่ระลึกเกี่ยวกับมวยไทย อาทิ กางเกงมวย, นวม, กระเป๋า, ผ้าพัน ฯลฯ สามารถเข้าชมแคมป์เรียลลิตี้กลางกรุง พร้อมชมบรรยากาศการฝึกซ้อมมวย
เสียดายงานจัด 3 วัน พลาดครั้งนี้ รอลุ้นอีกทีปีหน้าครับ เห็นเป็นโปรเจคต์เชิงอนุรักษ์มวยไทย นานๆ จะเห็นแบบนี้ที เลยเอามาลงให้ช่วยกันดันค่ะ เป็นกำลังใจให้มีคราวหน้า