“มหาวิทยาลัยศิลปากร” เตรียมมอบ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ แก่ ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ประมุขของสาธารณรัฐฝรั่งเศสคนปัจจุบัน เพื่อยกย่องและประกาศเกียรติคุณในฐานะที่เป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ มีผลงานที่โดดเด่นในสาขาวิชาธุรกิจระหว่างประเทศ โดยมี มร. จิลส์ การาชง เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ร่วมงาน พร้อมเผยในงานแถลงข่าวครั้งนี้ว่า ท่านผู้นำ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง รู้สึกปลาบปลื้มและเป็นเกียรติอย่างมาก
โดยประวัติชีวิตและผลงานของประธานาธิบดีประเทศฝรั่งเศส “มร. เอ็มมานูเอล มาครง” หลักๆ อย่างที่ทราบกัน คือ เอ็มมานูเอล มาครง เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ เคยทำงานด้านการธนาคาร และเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจนกระทั่งได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและกิจการดิจิทัลในรัฐบาลของนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีพรรคสังคมนิยม ก่อนจะลาออกและก่อตั้งพรรคการเมือง En Marche! หรือ Let’s Move ซึ่งมีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงปัญหาเก่าในประเทศที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ที่ฝังรากลึกมานานกว่า 30 ปี
นายมาครงมีฐานความนิยมจากผู้มีการศึกษา ชนชั้นกลาง และคนหนุ่มสาว เนื่องจากเขาสนับสนุนสหภาพยุโรป และมีแนวคิดชาตินิยมน้อยกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ รวมถึงมีนโยบายให้ความช่วยเหลือผู้อพยพและคนต่างเชื้อชาติ ในขณะเดียวกันก็มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในประเทศฝรั่งเศสที่เป็นมิตรต่อภาคธุรกิจและเอื้อต่อการลงทุนของนักธุรกิจ ไม่สังคมนิยมจัดเหมือนรัฐบาลพรรคสังคมนิยมของนายออลลองด์
ส่วนด้านประวัติของนายเอ็มมานูเอล มาครง เกิดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2520 ที่เมืองอาเมียงส์ ในครอบครัวที่ทั้งบิดาและมารดาเป็นแพทย์ จบการศึกษาจาก ENA สถาบันการปกครองชั้นสูงของฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อว่าผลิตนักการเมืองและประธานาธิบดีของฝรั่งเศส เคยเป็นนักการเงิน นายธนาคาร นักการเมืองและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและดิจิทัล ก่อนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
ขณะที่ผลงานที่โดดเด่น จนได้รับ “ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ” จากสภามหาวิทยาลัยศิลปากร มีดังนี้
การคิดแนวทางปฏิรูประบบเศรษฐกิจเสรีนิยม Macron Law (มาครง ลอร์)
การปฏิรูปการประกอบธุรกิจในประเทศฝรั่งเศสให้มีความคล่องตัวขึ้นรวมถึงการปรับระบบบริหารเพื่อเอื้อต่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้บริษัทฝรั่งเศสสามารถแข่งกับตลาดโลกได้
ปรับปรุงแก้ไขกฏหมายแรงงานทำให้การตกลงระหว่างนายจ้างและลูกจ้างคล่องตัว ยืดหยุ่นมากขึ้น (ลดค่าใช้จ่ายการจ้างงาน, สนับสนุนความเสมอภาค ป้องกันความไม่เท่าเทียมของลูกจ้างชายและหญิง
การจัด International Business Summit เพื่อดึงดูดนักธุรกิจทั่วโลกมาลงทุนที่ประเทศฝรั่งเศส
ปรับภาษีเงินได้นิติบุคคล และเพิ่มจำนวนโรงเรียนนานาชาติ
เพิ่มจำนวนชั้นเรียนสองภาษาและการฝึกอบรมเป็นภาษาอังกฤษเพื่อรองรับนักธุรกิจต่างชาติ
ส่งเสริมผลักดันภาษาฝรั่งเศสให้เป็นภาษาสำคัญ สนับสนุนสังคมพหุภาษาและพหุวัฒนธรรม
สนับสนุนด้านนวัตกรรมธุรกิจ Startup และเครือข่าย Startup โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับดิจิทัล
ประธานาธิบดีมาครงได้รับการยกย่องจาก La French Tech (ลาเฟร้ทซ์ เทค) ที่เป็นหน่วยงานของรัฐบาลฝรั่งเศสที่ดูแลด้านธุรกิจนวัตกรรมว่าเป็น The one-man startup unicorn