เปิดกรุผลงาน อาจารย์ ช่วง มูลพินิจ
“แดนสนธยา 2”
อาจารย์ ช่วง มูลพินิจ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (2556) จัดนิทรรศการ “แดนสนธยา 2” โดยมีพิธีเปิดในวันอังคาร ที่ 2 เม.ย. 2562 เวลา 14.30 น. ณ ห้องสตูดิโอ ชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เปิดให้ชมตั้งแต่วันนี้ ถึง ๒๘ เมษายน ปิดทุกวันจันทร์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ภายในงานเปิดนิทรรศการมี คุณบัณฑูร ล่ำซำ เป็นประธาน มีศิลปินและนักสะสม มาร่วมงานจำนวนมาก เช่น อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ อ.ชูศักดิ์ วิษณุคำรณ นิวัติ กองเพียร เสิรมคุณ คุณาวงศ์ สุขุม มีพันแสง ฯลฯ
อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า “คนมาร่วมงานนี้จนผมรู้สึกว่าเป็นเด็กเลย ผู้ใหญ่เยอะมาก ผมอยากบอกความในใจ ผมลอกรูปพี่ช่วงเกือบทุกรูปในหนังสือ ผมชอบพี่ช่วงมาก ผมไม่พอใจที่พี่ช่วงเป็นศิลปินแห่งชาติช้า ผมต่อสู้เรื่องนี้มานาน ตอนนั้นผมยังไม่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ ผมปากหมาก็เที่ยวไปถามคณะกรรมการ เขาบอกพี่ช่วงเป็นเดคคอลเรชั่น งานของพี่ช่วงไม่ใช่งานศิลปะ ผมโกรธมาก อะไรที่ไม่ใช่ศิลปิน เขาสร้างลายไทยเฉพาะตัว รูปแบบใหม่พิเศษที่สุด นั้นคือรูปแบบของงาน งานของพี่ช่วงมีตัวตน นี่คืออัตลักษณ์มาก”
“สุดท้ายเมื่อวันหนึ่งที่เปลี่ยนคณะกรรมการ พี่ช่วงได้เป็นศิลปินแห่งชาติ เป็นสิ่งที่ผมดีใจมาก พี่ช่วงเป็นหัวหอกเป็นศิลปินการเขียนลายไทยร่วมสมัย อย่าง อาจารย์ จักรพรรณ เป็นลายไทยที่ปราณีตสูงสุด สายอนุรักษ์ แต่พี่ช่วงคือ เปลี่ยนแปลงรูปแบบทั้งหมดของศิลปะไทยมาเป็นศิลปะร่วมสมัย ผมอยากฝากบอกถึงความในใจ รักพี่ช่วงมากๆช พี่ช่วงเป็นศิลปินแห่งชาติที่สมศักดิ์ศรีที่สุดในไม่กี่คน ขอบคุณพี่ช่วงที่สร้างงานศิลปะให้เราได้ชื่นชม”
คุณเสริมคุณ คุณาวงศ์ “เคยอ่านหนังสือฟ้าเมืองทอง ฟ้าเมืองไทย อ่านหนังสือชาวกรุง งานของอ.ช่วง โดดเด่นด้วยลายเส้น ลายเส้นนั้นมีพลังดึงดูดให้เราอยู่ในภาพเหล่านั้น ภาพของอ.ช่วงมันกระทบจิตใจหลายคน เป็นศิลปินแห่งชาติที่สมศักดิ์ศรี นอกจากเป็นศิลปิน อ.เป็นศิลปินโบราณ เขียนภาพ เขียนกวี และมีปรัชญา ได้ศึกษาปรัชญามามาก นอกจากดรออิ้ง และภาพสีน้ำมันแบบบาง เป็นภาพเขียนที่ทรงคุณค่า นักสมสมที่อยู่ในนี้มีหลายท่าน อยากให้ช่วยสะสมงานอ.ช่วงให้อยู่บนโลกใบนี้”
ด้าน อาจารย์ ช่วง มูลพินิจ “ที่มาของการจัดงาน ผมมีภาพในหลวง รัชกาลที่ 9 เขียนประมาณปี 2560 เคยนำไปจัดแสดงหลายที่ ที่ผ่านมาผมได้ออกแบบเลข 9 ให้ รพ.ศิริราช ออกแบบตัวหนังสือเกี่ยวกับกับพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เลยอยากเอามาจัดแสดงพร้อมกับผลงานเก่าใหม่ มีภาพสเก็ตซ์ในสมุกภาพเล็กๆ ไม่เคยแสดง เอามาแสดงด้วย
แดนสนธยา ทีแรกนึกว่าจะมืดแล้ว พอมันยังสว่างก็แสดงอีกที ถ้าไม่มืดก็จะจัดครั้ง 3 ครั้ง 4 อีก คอนเซ็ปต์ของแดนสนธยา ผมกำหนดไว้ 3 เรื่อง อริยะกษัตริย์ ศิลปะ และ สัจธรรม สัจธรรมคือความจริงของธรรมชาติ ความจริงในการเกิดดับนำเสนอผ่านศิลปะ ศิลปะคือการสร้างสรรค์ อริยะกษัตริย์ ผมชอบคำนี้ อริยะคือผู้ทรงบุญชั้นสูง นำสันติภาพมาสู่โลก”
ในงานเปิด อ.ช่วง ได้อ่านบทความเรื่อง “วัฒนธรรมและศิลปะ” ของ อ.ศิลป์ พีระศรี ที่เขียนไว้เมื่อปี 2502 “ในยุคเรานี้มนุษย์สร้างความสำราญทางวัตถุอย่างน่าชื่นชม แต่พิจารณาความก้าวหน้าของจิตใจแล้ว เรายังในระดับต่ำมาก มนุษย์ค้นพบพลังปรมาณู ส่งดาวเทียมสู่ห้วงอวกาศ ได้บรรลุผลสำเร็จทางความเร็วอันน่ทตื่นใจด้วยเครื่องจักร
สิ่งมหัศจรรย์ทั้งหลายแหล่ ซึ่งเกิดจากพละกำลังและความรุนแนงอันมหาศาลนั้น แทนที่จะให้ความอภิรมย์ กลับบดขยี้จิตใจของเราลงไป ประสาทของเราเพ่มความเคร่งเครียด ไม่เคยผ่อนคลาย ไม่เคยมองดูท้องฟ้าว่ามีเมฆหรือแจ่มใส เราผละหนีธรรมชาติไปอย่างผิดทาง เพื่อสร้างโลกแห่งความหวาดระแวงและเกลียดชัง ด้วยลัททธิวัตถุนิยม มนุษย์ได้รับการสอนให้ปราศจากความเมตตาปราณี ให้มีแต่ความโลภหลงยึดวัตถุเป็นที่ตั้ง
ศิลปะเท่านั้นที่ช่วยได้ เพราะศิลปะคืออาหารของจิตใจ เป็นพุทธิปัญญาของมนุษย์เรา ศิลปะทำให้สงบเย็นเป็นบ่อเกิดของความหวังอันสูงส่ง ที่จะทำให้มนุษย์รักใคร่ซึ่งกันและกัน ทำให้มีภาวะเป็นมนุษย์ที่แท้จริง”
นิทรรศการ “แดนสนธยา ๒” (Twilight Zone II) จัดแสดงห่างจากนิทรรศการ แดนสนธยา ครั้งแรก ถึง 6 ปี ครั้งนี้รวบรวมผลงานของอาจารย์ช่วงราว 120 ภาพ เป็นผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2530 – ปัจจุบัน ทั้งภาพจิตรกรรมสีน้ำมัน และ ภาพดรออิ้งในสมุดบันทึก ศิลปินได้สเก็ตซ์ไว้เมื่อสัมผัสได้ถึงความงามที่พวยพุ่งออกมาจากความนึกคิดที่ถูกขัดกล่อมด้วยประสบการณ์ของชีวิต จัดแสดง วันที่ 2-28 เม.ย. 2562 (หยุดนักขัตฤกษ์ 13-16 เม.ย.ณ ห้องสตูดิโอ ชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร)