มอริซ ลาครัวซ์ (Maurice Lacroix) แบรนด์นาฬิกาหรูเหนือระดับจากสวิตเซอร์แลนด์ หรูหราเหนือกาลเวลา ได้ฤกษ์จัดงานเปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ ในไลน์ ‘ไอคอน’ (AIKON) และอื่นๆ ภายใต้ชื่องานว่า “The Aikonic Novelties of 2020 collection” โดยรุ่นพิเศษสุดของงานนี้คือ ‘ไอคอน โครโนกราฟ สเกเลทัน’ (Aikon Chronograph Skeleton) พร้อมด้วยโชว์นาฬิกาหลากหลาย นับว่าเป็นการเปิดตัวครั้งแรกใน Asia เพื่อให้แฟนพันธุ์แท้ มอริซ ลาครัวซ์ ได้ชมก่อนใคร ความสวยงามและความพิเศษ ดังนี้
‘ไอคอน โครโนกราฟ สเกเลทัน’ คือผลงานรังสรรค์ร่วมสมัยที่งดงามดั่งประติมากรรม ด้วยการผสมผสานเส้นสายและเหลี่ยมมุมที่ดูแข็งแรงและสื่อถึงความเป็นชายจาก ‘ไอคอน ออโตเมติก’ (AIKON Automatic) เข้ากับหนึ่งในรูปแบบการเคลื่อนไหวของฟันเฟืองที่โดดเด่นที่สุดจากมอริซ ลาครัวซ์ การเผยให้เห็นโครงสร้างกลไกอันเปลือยเปล่า (Skeletonisation) ของนาฬิกาโครโนกราฟอัตโนมัติเรือนนี้ช่วยขับเน้นรายละเอียดของเข็มนาฬิกา กรอบหน้าปัด และปุ่มกดต่าง ๆ ด้วยลูกเล่นระหว่างแนวเส้นที่คมสลับกับรูปร่างวงกลมและหกเหลี่ยม มอริซ ลาครัวซ์ได้เนรมิตชิ้นเหล็กกล้าให้กลายเป็นงานศิลปะของศาสตร์แห่งการทำนาฬิกาอันทรงพลัง
‘ไอคอน โครโนกราฟ สเกเลทัน’ สะท้อนให้เห็นถึงพลังสร้างสรรค์ในด้านการออกแบบและระบบของแบรนด์ ตั้งแต่มรดกองค์ความรู้ด้านการผลิตนาฬิกาของคอลเลคชั่น ‘มาสเตอร์พีซ’ (Masterpiece) ไปจนถึงรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งจากคอลเลคชั่น ‘ไอคอน’ (Aikon) ไม่กี่เดือนหลังจากการบุกเบิกไลน์ผลิตภัณฑ์ด้วยนาฬิกา ‘ไอคอน เมอร์คิวรี’ (AIKON Mercury) มอริซ ลาครัวซ์ ก็ได้ขยายไลน์ให้กับคอลเลคชั่นที่โดดเด่นนี้ ด้วยผลงานชิ้นใหม่ที่มีทั้งความซับซ้อน สวยงาม และเด็ดเดี่ยว
ความเป็นเลิศทางเชิงช่างของ ‘ไอคอน โครโนกราฟ สเกเลทัน’ คือความปรารถนาทางสุนทรียภาพและการประกาศกร้าวของบุคลิกอันทรงพลังแบบ ‘ไอคอน’ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้บรรลุศักยภาพสูงสุด แต่เบื้องหลังการสร้างนาฬิกาที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญและชัดเจนเรือนนี้ มอริซ ลาครัวซ์ยังคงยึดมั่นในหลักการสำคัญ นั่นก็คือนาฬิกาแบบคอมพลิเคชั่น (Complication) หรือนาฬิกาหลายระบบของแบรนด์นั้น จะต้องถูกประกอบขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่ลืมคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุประสงค์การใช้งาน คุณค่าที่มองเห็น และราคาที่ต้องลงตัวและน่าครอบครอง
ตัวเรือนแบบ 3 มิติ และเสน่ห์ของความเป็นชาย
เส้นผ่านศูนย์กลาง 44 มม. และความหนาที่ทำให้ดูแข็งแกร่งและสง่างาม กรอบหน้าปัดที่บางลงช่วยให้คุณสามารถชื่นชมการเคลื่อนไหวของฟันเฟืองได้อย่างเต็มที่ หน้าปัดที่โดดเด่นกว่าเคยด้วยการประดับแขน 6 จุดอันเป็นลักษณะเฉพาะของ ‘ไอคอน’และการแกะสลักเลขแบบ 10 x 10 สะกดสายตาด้วยปุ่มกดควบคุมแบบฐานหกเหลี่ยมที่ยื่นออกมาจากตัวเรือน ปุ่มปรับเวลาขนาดใหญ่และยาวแต่งด้วยขอบฟันเลื่อยและเคลือบผิวด้วย PVD สีดำ เสน่ห์ความเป็นชายของนาฬิกาโครโนกราฟที่เป็นเลิศทั้งด้านงานศิลป์และภาพลักษณ์อัลตร้า-สปอร์ตได้ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มภาคภูมิ และเพื่อให้นาฬิกา โครโนกราฟ สเกเลทันเรือนนี้ยิ่งสมบูรณ์ มอริซ ลาครัวซ์ยังได้ปรับแต่งการเคลือบผิวขัดเงาเพื่อสร้างลูกเล่นในการรับรู้มิติที่มากขึ้น
องค์ประกอบต่าง ๆ ที่อยู่ใน ‘ไอคอน โครโนกราฟ สเกเลทัน’ นั้น ยิ่งมีมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น เริ่มจากแขนและกรอบหน้าปัดที่ทำมาจากเหล็กกล้าเคลือบผิวแบบซาติน หน้าปัดที่ประกอบด้วยเครื่องหมายบอกชั่วโมง 4 จุดและหน้าปัดย่อยสำหรับจับเวลาก็มีการเคลือบผิวแบบซาตินในเฉดที่เข้มขึ้น แถบนูนของหน้าปัดจับเวลาถูกขัดด้วยไม่โครบีดและใช้สีที่เข้มขึ้นอีก ในชั้นถัดลงมาคือพื้นที่สำหรับแสดงการเคลื่อนไหวของกลไก ประดับด้วยทองคำสีดำ DLC ซึ่งถูกขับเน้นให้เด่นด้วยการเล่นสีเทาอ่อนในชั้นล่างสุดเพื่อให้เกิดความแตกต่าง
การผสมผสานทางเชิงช่าง
องค์ประกอบของกรอบหน้าปัด ตัวยึดหน้าปัด และแผงหน้าปัดทั้งหมด ก่อให้เกิดเอฟเฟกต์แบบวอร์เท็กซ์หรือกระแสน้ำวน สัญลักษณ์และเครื่องหมายทั้งหมดถูกจัดเรียงให้มีทิศทางและจุดนำสายตายที่พุ่งไปยังศูนย์กลางของนาฬิกา เส้นบอกเวลาสีดำที่สลักอยู่บนขอบหน้าปัดถูกต่อขยายให้ยาวขึ้นไปถึงพื้นที่ของตัวหน้าปัดแซฟไฟร์ ต่อเนื่องไปจนถึงเครื่องหมายบอกชั่วโมง และปิดท้ายด้วยเครื่องหมายสำหรับการจับเวลา เข็มวินาทีสีน้ำเงินและเข็มนาฬิกาชุบโรเดียมของ ‘ไอคอน’ ยิ่งงดงามมากขึ้นด้วยสารเรืองแสง SLN ที่แผ่ออกมาจากศูนย์กลาง การตัดกันของเฉดสีที่แฝงไว้ด้วยความขี้เล่นนี้ ถูกเติมเต็มให้สมบูรณ์ด้วยสายรัดข้อมือเฉพาะของ ‘ไอคอน โครโรกราฟ สเกเลทัน’ ที่ใช้หนังลูกวัวสีดำ ประดับด้วยด้ายเย็บมือสีขาวและเครื่องหมายโลโก้ M ซิกเนเจอร์ของแบรนด์ พร้อมระบบ Easy change ที่ช่วยให้เปลี่ยนสายได้อย่างง่ายดายภายในไม่กี่วินาที
กลไกที่เป็นพื้นฐานของนาฬิกาอันทรงพลังเรือนนี้คือ ML206 Calibre ซึ่งเป็นระบบโครโนกราฟอัตโนมัติด้วยพร้อมหน้าปัดจับเวลา 2 ส่วน และแบตเตอรี่สำรอง 48 ชั่วโมง ซึ่งเป็นกลไกเดียวกันกับที่ใช้ใน ‘มาสเตอร์พีซ โครโนกราฟ สเกเลทัน’ (Masterpiece Chronograph Skeleton) ในปี พ.ศ. 2559 และด้วยภาพลักษณ์แบบสปอร์ตก็ทำให้กลไกนี้สามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของ ‘ไอคอน โครโรกราฟ สเกเลทัน’ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ตอกย้ำด้วยอัตลักษณ์ทางเชิงช่างของการเปลือยกลไกและการเล่นกับเส้นที่ดูแข็งแรง
‘ไอคอน’ ไลน์
‘ไอคอน’ เป็นไลน์ผลิตภัณฑ์รุ่นทายาทของ ‘มอริซ ลาครัวซ์ คาลิปโซ่’ (Maurice Lacroix Calypso) นาฬิกาเหล็กกล้านี้เป็นหนึ่งในรุ่นไอคอนของแบรนด์ในทศวรรษที่ 90 โดยยังคงไว้ซึ่งรหัสการออกแบบดั้งเดิมที่ยังโลดแล่นอยู่ในนาฬิการุ่นหลังอย่าง ‘ไอคอน’ ตัวเรือนกันน้ำ กรอบหน้าปัด 6 แขนที่โอบล้อมหน้าปัดแซฟไฟร์ สายรัดที่มีโลโก้ M และการปรากฏกายที่โดดเด่น ทำให้นาฬิการุ่นนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ที่สุดของแบรนด์ ในปี พ.ศ. 2559 มอริซ ลาครัวซ์ได้ตีความผลงานรังสรรค์นี้ใหม่ในคอนเซ็ปต์ร่วมสมัย และได้ให้กำเนิดนาฬิกาในไลน์ ‘ไอคอน’ ที่ใช้การแกว่งของแร่ควอตซ์ ในปี พ. ศ. 2561 มหากาพย์แห่งคอลเลคชั่น ‘ไอคอน ออโตเมติก’ (AIKON Automatic) ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง และในปี พ.ศ. 2562 ‘ไอคอน เมอร์คิวรี’ (AIKON Mercury) ก็ได้เปิดตัวในฐานะนาฬิกาแบบคอมพลิเคชั่นสไตล์ ‘มาสเตอร์พีซ’ (Masterpiece-style complications) ที่เข้ามาเติมเต็มคอลเลคชั่นให้สมบูรณ์
‘มาสเตอร์พีซ เอมเบรซ’ คือการผสมผสานระหว่างการแสดงออกทางศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ทางเทคนิค ที่สื่อออกมาผ่านปฏิทินเรโทรเกรดหรือปฏิทินแบบครึ่งวงกลม และระบบบอกวินาทีที่แปลกใหม่ หัวใจสองดวงที่หมุนไปพร้อม ๆ กันสื่อถึงความสัมพันธ์ทั้งหลายที่ต่างมีขึ้นและมีลง แต่ถึงกระนั้นคู่รักก็ยังคงเคียงคู่กันเสมอ มั่นคงอยู่ในอ้อมแขนที่ไม่มีวันคลายจากกันตลอดกาล
นาฬิกาเรือนนี้รวมเอาความงามอันทรงเสน่ห์เข้ากับความเชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกาที่น่าทึ่ง และมีให้เลือกถึง 2 แบบ คือแบบหน้าปัดสีน้ำเงินเคลือบประกายอาเวนทูรีน (Aventurine) และแบบหน้าปัดสีขาวมุกมาเธอร์ ออฟ เพิร์ล (Mother of Pearl) ประดับด้วยเส้นคล้ายรัศมีที่แผ่ออกมาจากเครื่องหมายบอกวินาที
ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 40 มม. ที่ได้สัดส่วน ทำให้นาฬิกาดูสวยงามแข็งแรงเมื่ออยู่บนข้อมือ เหมาะกับการแต่งตัวแบบ ไฮแฟชั่น และที่อยู่ในตัวเรือนแสนหรูหราคือกลไก Calibre ML258 ของแบรนด์ การเคลื่อนไหวอัตโนมัตินี้งดงามด้วยการตกแต่งระดับไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็น บริดจ์ชุบโรเดียมประดับลายก้นหอยโคลิมาซง (Colimaçon) ตัวหมุนโรเตอร์แบบเปิดชุบโรเดียมประดับด้วยลวดลาย ‘โคต เดอ เจแนฟ’ (Côtes de Genève) แนวตั้ง ลายก้นหอยโคลิมาซง และการขัดผิวด้วยการพ่นทราย เรียกได้ว่านอกเหนือไปจากรูปลักษณ์ที่เรียกรอยยิ้มได้แล้ว นาฬิกาเรือนยังนี้เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติมากมายภายใน
เข็มชั่วโมงและนาทีรูปใบไม้ตกแต่งลายฉลุแบบโอเพ่นเวิร์คสามารถบอกเวลาได้อย่างชัดเจนและมีรสนิยม ในส่วนล่างของหน้าปัด จะมีเข็มที่เหมือนลูกศรอันสื่อถึงกามเทพ ทำหน้าที่เป็นตัวบอกวันที่ด้วยระบบเรโทรเกรด ดูสวยเก๋ด้วยการประดับวงกลมเล็ก ๆ เมื่ออยู่ในห้วงแห่งรัก หัวใจอาจเต้นไม่เป็นส่ำและความคิดก็อาจพร่ามัว ความรู้สึกเหล่านี้ถูกถ่ายทอดด้วยผ่านถ้อยคำที่เป็นบทกวีบนหน้าปัดว่า ‘je t’aime un peu, beaucoup, à la folie!’ แปลว่า “ฉันรักเธอ นิดเดียว มากมาย แทบบ้า!”
อย่างไรก็ตาม ดาวเด่นของ ‘มาสเตอร์พีซ เอมเบรซ’ คือส่วนแสดงวินาทีขนาดเล็กของรุ่น ซึ่งเป็นการตีความใหม่ของ ‘สแควร์ วีล อินดิเคชั่น’ (Square Wheel Indication) สิทธิบัตรของมอริซ ลาครัวซ์ ฟันทุกซี่ในวงล้อมีลักษณะเฉพาะเพื่อให้เกิดความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุดและความเที่ยงตรงอย่างไร้รอยต่อในขณะที่ทำงานร่วมกับซี่ฟันอื่นที่อยู่ติดกัน การทำเครื่องหมายอย่างแนบเนียนสามารถทำให้นาฬิกาบอกวินาทีได้โดยไม่รบกวนดีไซน์ที่เรียบโก้ของหน้าปัด อีกหนึ่งจุดสนใจคือการตีความรูปแบบของหัวใจที่แตกต่างกันใน ‘มาสเตอร์พีซ เอมเบรซ’ ทั้ง 2 แบบ
มอริซ ลาครัวซ์นำเสนอ ‘มาสเตอร์พีซ เอมเบรซ’ บนสายหนังลูกวัวที่เข้าคู่กับสแตนเลสสตีลบานพับ ง่ายต่อการใช้งาน
มอริซ ลาครัวซ์ ได้สร้างนาฬิการุ่นใหม่ในไลน์ ‘ไอคอน’ (AIKON) ซึ่งมีจำกัดเพียง 500 เรือนเท่านั้น เพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง นาฬิกาโครโนกราฟสุดสปอร์ตรุ่นนี้ มีหน้าปัดหลักสีดำแวววาวแบบซันบรัชด์ (Sun Brushed) และสามหน้าปัดย่อยสำหรับจับเวลาที่ตกแต่งแบบสเนลด้วยลายเส้นก้นหอย ให้ความแม่นยำในการบอกเวลาด้วยการเคลื่อนไหวของควอตซ์ และสายหนังที่ให้เอฟเฟกต์แบบคาร์บอน นาฬิกาโครโนกราฟดีไซน์ร่วมสมัยรุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รักการแข่งขันและต้องการเป็นผู้นำจากแถวหน้า
มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ
ตัวเรือนของ ‘ไอคอน’ คือเหล็กสแตนเลสสตีล PVD สีดำ เส้นผ่านศูนย์กลาง 44 มม. ให้ภาพลักษณ์ที่ดูลึกลับ น่าค้นหา แต่สปอร์ตอย่างสุดขั้ว หน้าปัดสีดำซันบรัชประกอบด้วย 3 หน้าปัดย่อยแบบสเนล ซึ่ง 2 ใน 3 หน้าปัดนั้นถูกล้อมรอบด้วยวงแหวน บรัชด์ ริงส์ (Brushed Rings) ที่ดึงดูดทุกสายตา หน้าปัดจับเวลาเหล่านี้ประกอบไปด้วยตัวจับเวลา 30 นาที ที่ 9 นาฬิกา ตัวจับเวลา 1/10 วินาที ที่ 12 นาฬิกา และตัวจับวินาทีขนาดเล็กที่ 6 นาฬิกา ตัวจับเวลาอันสุดท้ายยังรวมฟังก์ชั่นการบอกวันที่เอาไว้ด้วย เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีทำจากวัสดุโรเดียมชุบ ผสานสารเรืองแสง SLN เฉดสีฟ้าอ่อนที่ช่วยเสริมให้เข็มวินาทีตรงกลางของนาฬิกาโครโนกราฟ การบันทึกการจับเวลา และเข็มนาทีดูสวยเด่น เติมเต็มหน้าปัดให้สดใสด้วยการแต่งแต้มสีอย่างมีรสนิยม
เพื่อให้สอดคล้องกับ ‘ไอคอน’ รุ่นอื่น ๆ กรอบหน้าปัดของ ‘ไอคอน’ รุ่นนี้จึงใช้หน้าปัด 6 แขนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ปุ่มกดจับเวลาวางอยู่ใกล้กับหมุดปรับเวลาและที่ครอบหมุด และเพื่อส่งมอบการออกแบบที่ประณีตผสานสุนทรียะแบบสปอร์ตและเสน่ห์ความเป็นชาย ณ ใจกลางนาฬิการุ่นลิมิเต็ดนี้คือการเคลื่อนไหวของแร่ควอตซ์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องไขลาน เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่ควรมีสิ่งใดมาหันเหปณิธานของผู้สวมใส่ในการบรรลุเป้าหมาย นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของแร่ควอตซ์ยังทำให้นาฬิกามีความเที่ยงตรง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้นำแถวหน้า
เสริมภาพลักษณ์อันทรงสมรรถนะของนาฬิกาด้วยสายหนังลูกวัวสีดำสไตล์คาร์บอน ประดับด้วยฝีเย็บสีฟ้าอ่อน และระบบ Easy Strap Change’ ของบริษัทที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถปรับเปลี่ยนสไตล์ของนาฬิกาได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใด ๆ นอกจากนี้บนสายนาฬิกายังมีโลโก้ ‘M’ ของแบรนด์ จับคู่มากับหัวสายนาฬิกาสแตนเลสสตีล PVD สีดำ
‘ไอคอน’ รุ่นลิมิเต็ดท้าให้ผู้สวมใส่กดปุ่มจับเวลา เผชิญหน้ากับข้อจำกัดของตน และมุ่งมั่นเพื่อให้บรรลุความสำเร็จ
มอริซ ลาครัวซ์ต่อยอดคอลเลคชั่นที่ขายดีที่สุดด้วยการเปิดตัว ‘ไอคอน ควอตซ์’ (AIKON Quartz) รุ่นใหม่ 2 แบบ 1 สไตล์ ได้แก่นาฬิการุ่น 3 เข็มและรุ่นโครโนกราฟ ในชุดสีดำ เทา และเขียว ซึ่งทั้งคู่ก็ได้เข้าทำเนียบนาฬิกาที่มีรสนิยม ทันสมัย และเด็ดเดี่ยวเป็นที่เรียบร้อย เราสามารถเห็นอิทธิพลของแฟชั่นแนวสตรีทแวร์ในนาฬิกาเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน อันเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่ทำให้นาฬิการุ่นนี้ที่มีความคุ้มค่าเป็นพิเศษ
ใน พ.ศ. 2563 นอกเหนือจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ ‘ไอคอน ออโตเมติก’ (AIKON Automatic) แล้ว มอริซ ลาครัวซ์ยังคงสานต่อแคมเปญในการโปรโมตคอลเลคชั่น ‘ไอคอน ควอตซ์’ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์คู่ในไลน์ ‘ไอคอน ควอตซ์’ ที่นำเสนอภาษาใหม่ของการออกแบบด้วยเหล็กกล้าสีเทา PVD สีดำ และสายรัดสีเขียว ได้แก่นาฬิการุ่น 3 เข็ม และนาฬิการุ่นโครโนกราฟที่มาพร้อมหน้าปัดย่อยจับเวลา ในตำแหน่ง 6-9-12 นาฬิกา โดยทั้งคู่ใช้กลไกการเคลื่อนไหวของแร่ควอตซ์คุณภาพสูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นนาฬิกาสไตล์เออร์บันแบบใหม่ที่ทันสมัยกว่าเคย สำหรับการใช้ชีวิตอย่างสุดขั้ว
เก๋เท่แบบเออร์บัน ชิค
ตัวเรือนของ ‘ไอคอน ควอตซ์รุ่น 3 เข็ม’ (AIKON Quartz Three-hands) มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มม. ในขณะที่รุ่น ‘ไอคอน ควอตซ์ โครโน’ (AIKON Quartz Chrono) ยังคงซื่อสัตย์กับตัวเรือนขนาด 44 มม. แต่สิ่งที่เหมือนกันคือกรอบหน้าปัดเหล็กกล้า PVD สีดำ และแขนริมกรอบหน้าปัดที่ยกขึ้นเพื่อสร้างคอนทราสต์และสื่อถึงความขี้เล่น โดยยังคงความหรูหราของเหล็กกล้าผิวซาติน หน้าปัดสีดำ และแถบนูนสูงแนวนอนใน ‘ไอคอน ควอตซ์รุ่น 3 เข็ม’ และหน้าปัดสีดำแวววาวแบบซันบรัชด์ในรุ่น ‘ไอคอน ควอตซ์ โครโน’ ทั้ง 2 รุ่นมีเครื่องหมายชั่วโมง ช่องบอกวันที่ (ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกาสำหรับรุ่น 3 เข็ม และตำแหน่ง 6 นาฬิกาสำหรับรุ่นโครโนกราฟ) ส่วนหน้าปัดจับเวลาโครโนกราฟก็ใช้เหล็กผิวซาตินเข้ามาช่วยเพิ่มคอนทราสต์ โดยยังคงล้อไปกับดีไซน์หลักของตัวเรือนและเข็มชุบโรเดียม อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ความลงตัวของสไตล์และสีสันนั้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก็คือสายหนังลูกวัวสีเขียวขี้ม้า (Military Green) และการเล่นสีของฝีเข็มแบบ Tone-On-Tone พร้อมกับระบบ Easy change ครั้งแรกในคอลเลคชั่น ‘ไอคอน ควอตซ์’ ที่จะช่วยให้คุณถอดเปลี่ยนสายนาฬิกาและลุค ได้รวดเร็วดั่งใจ นอกจากนี้ ยังมีตัวยึดหน้าปัดสีแดงในรุ่นโครโนกราฟที่ช่วยเพิ่มสัมผัสสุดสปอร์ตให้กับลุคโดยรวม
คุณสมบัติพิเศษของ ‘ไอคอน ควอตซ์’
ตัวเรือนของ ‘ไอคอน ควอตซ์’ นั้นแตกต่างจาก ‘ไอคอน ออโตเมติก’ ในรายละเอียดที่แนบเนียนบางจุด ทั้ง 2 รุ่นใช้กรอบหน้าปัดแบบ 6 แขน หน้าปัดทรงเฉพาะของแบรนด์ และข้อต่อ 2 ชิ้นที่ยื่นออกมาจากตัวเรือนเพื่อเชื่อมกับสายข้อมือเหล็กเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ในไลน์ของ ‘ไอคอน ควอตซ์’ นั้น มุมที่ขอบตัวเรือนจะเรือนป้านขึ้น ไหล่ของปุ่มปรับเวลาและปุ่มกดจับเวลาจะเป็นรูปวงรีแทนที่จะมีฐานหกเหลี่ยม ซึ่งทำให้ดูโค้งมนและให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลขึ้นเล็กน้อย นอกเหนือจากความแตกต่างในรายละเอียดการออกแบบเหล่านี้ สิ่งที่นาฬิกา ‘ไอคอน ควอตซ์’ ใหม่และนาฬิกา ‘ไอคอน ออโตเมติก’ ยังคงมีร่วมกัน ก็คือบรรทัดฐานในการทำนาฬิกาที่ต้องสามารถแสดงให้เห็นถึงคุณภาพชั้นเลิศ แต่อยู่ในราคาที่เอื้อมถึง
เฟียบา มูนเฟส’ (FIABA MOONPHASE) – บทสรุปของความเป็นผู้หญิงและสไตล์
‘เฟียบา มูนเฟส’ ผสมผสานการใช้งาน ความเย้ายวน และสไตล์เข้าด้วยกัน นาฬิการุ่นล่าสุดจากมอริซ ลาครัวซ์นี้มาพร้อมกับฟังก์ชั่นข้างขึ้นข้างแรม หรือมูนเฟส (Moonphase) เซ็ตหน้าปัดประดับเพชร และความรื่นรมย์อันแสนสุนทรีย์อีกมากมาย มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ และ 1 ในนั้นคือรุ่น 2 สี
ดวงจันทร์ถูกยกให้เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้หญิง เป็นคำอุปมาของชีวิต การบรรจบกันของความมืดและแสงสว่าง และยังสื่อถึงเวลา ในโลกแห่งนาฬิกานั้น ความงดงามราวบทกวีของข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์ไม่เคยคลายมนต์เสน่ห์ที่มีต่อช่างทำนาฬิกา และดั่งนัยยะของชื่อ ‘เฟียบา มูนเฟส’ นาฬิการุ่นนี้มีเครื่องหมายแสดงข้างขึ้นข้างแรมในรูปพระจันทร์เสี้ยวอยู่เหนือตำแหน่ง 6 นาฬิกา
มอริซ ลาครัวซ์ นำเสนอนาฬิการุ่นนี้ใน 3 แบบ ได้แก่ แบบหน้าปัดสีฟ้าบลู ซันเรย์ (Blue Sunray) แบบหน้าปัดมุกสีขาว และแบบหน้าปัดสีขาวมุกสองสี นาฬิกาแต่ละแบบประดับด้วยวงกลมที่เกิดจากการเรียงเพชร 46 เม็ดเป็นกรอบให้กับพื้นที่ส่วนกลางของหน้าปัด เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีทรงใบไม้หมุนรอบหน้าปัดอย่างสวยงาม และสื่อความหมายด้วยโทนสีที่ชัดเจน
เครื่องหมายบอกชั่วโมงแต่ละชิ้นนั้นงดงามด้วยรูปทรงแบบหยดน้ำ หรือ ‘Goutte d’eau’ และเป็นครั้งแรกในรุ่น ‘เฟียบา’ ที่ใช้ตัวเลขอารบิก โลโก้ ‘M’ ของมอริซ ลาครัวซ์ที่วางอยู่ในตำแหน่ง 12 นาฬิกาส่องประกายอย่างสุกสว่าง ยืนยันถึงความหรูหราของรุ่นนี้อีกครั้ง เข็มวินาทีที่ปัดเต็มความยาวจากกลางหน้าปัด และหน้าจอแสดงวันที่ช่วยเติมเต็มฟังก์ชั่นที่เพียบพร้อมอยู่แล้วนั้นให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
กลไกการเคลื่อนไหวควอตซ์ที่แสนสะดวกสบายถูกบรรจุไว้ในตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 32 มม. กรอบหน้าปัดที่เริ่มต้นจากหลังตัวเรือนสร้างเอฟเฟกต์แบบขั้นบันไดได้อย่างงดงาม ล้อไปกับแสงแดดราวกับเกี้ยวพาราสี ปุ่มปรับเวลาประดับด้วยอัญมณีสีน้ำเงินเจียระไนแบบหลังเต่า และมีช่องระบุวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
‘เฟียบา มูนเฟส’ ถูกนำเสนออย่างงดงามบนสายรัดข้อมือสแตนเลส 3 แถว และตัวถอดนาฬิกาแบบบานพับที่ออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน แม้จะอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดอันหรูหรามากมาย แต่นาฬิกาเรือนนี้มอบคุณค่าที่คุ้มราคาได้อย่างน่าทึ่ง สานต่อชื่อเสียงของมอริซ ลาครัวซ์ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์พร้อมอัตราส่วนราคาต่อคุณภาพที่น่าประทับใจ
ยลโฉมใหม่ มอริซ ลาครัวซ์ (Maurice Lacroix) ทั้ง 5 รุ่น ได้ที่ เคาน์เตอร์มอริซ ลาครัวซ์ ทั้ง 8 สาขา สยามพารากอน, เอ็มโพเรียม, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลชิดลม, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีช, เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต พร้อมสอบถามโปรโมชั่นได้ที่เคาน์เตอร์ทุกสาขา