คุณธนพล ธรรพสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่ม Thai & Chinese Cuisine บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี (Mr. Tanapoln Tunpasit – Head of Thai & Chinese Cuisine) เปิดเผยว่า ปี 2564 ยังคงเป็นปีแห่งความท้าทายสำหรับธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากผู้ประกอบการยังต้องทำตลาดภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สร้างข้อจำกัดให้กับผู้ประกอบการหลายด้าน ส่วนผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ลดลง ทำให้บริษัทต้องปรับตัว พลิกกลยุทธ์การตลาดอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้สอดคล้องความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบทิศทาง
ทั้งนี้ ในฐานะผู้นำธุรกิจร้านอาหารมีแบรนด์ชั้นนำมากมายภายใต้กลุ่มธุรกิจ Thai & Chinese Cuisine อาทิแบรนด์ ไทยเทอเรส อร่อยดี เกาลูน และ ส้มตำนัว บริษัทฯ ยังเดินหน้าทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อเจาะผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในยุควิถีปกติใหม่(New Normal) ต้องอยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน แต่ยังคงมองหาเมนูอาหารจานโปรดตอบสนองการบริโภคในแต่ละมื้อ ซึ่งเมื่อผู้บริโภคอยู่บ้านเป็นเวลานาน หนึ่งในปัญหาใหญ่หรือ Pain point ของการรับประทานอาหารแต่ละมื้อ คือ การคัดสรรเมนู เพราะบางเมนูทานซ้ำจนเกิดอาการเบื่อ จึงวิเคราะห์ความต้องการเชิงลึกผู้บริโภค (Insight) พบว่าแต่ละสัปดาห์จะมี 1 มื้อพิเศษที่รับประทานทั้งครอบครัว ที่เหลือจะเป็นมื้อเรียบง่าย แต่ต้องเป็นอาหารจานเด็ดและอร่อย
บริษัทฯ จึงหยิบแบรนด์ “อร่อยดี” มาเป็นพระเอกลุยตลาด พร้อมนำเสนอเมนูเด็ด “หฤโหดโคตรกะเพรา” ที่เป็นเอกลักษณ์หรือ Signature ของร้านอร่อยดี ที่สร้างสรรค์เมนูโดน ราคาดี และอร่อยดีตามสโลแกน ”รสชาติคุ้น อิ่มครบ จบทุกมื้อ” มาจัดแคมเปญ AROIDEE CAMPAIGN@TIKTOK CHALLNGE เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม(Engagement)กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่มากขึ้น
สำหรับแคมเปญ AROIDEE CAMPAIGN@TIKTOK CHALLNGE ได้แบ่งกิจกรรมเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1. แบ่งกันทาน(Duet Challenge Idea) เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมาจับคู่หรือ Duet กับบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ ประลองความเผ็ดของกะเพราหฤโหดสูตรลับของร้านอร่อยดี 2.แข่งกันกิน(Duet Challenge) โดยให้ผู้บริโภคมาแข่งกินกะเพราหฤโหด ร้านอร่อยดี ทดสอบความเร็ว จนเกิดคอนเทนท์ฮาๆ เติมความสนุกให้กับกลุ่มเป้าหมาย และสร้างเอนเกจเมนต์กับแบรนด์และเมนูของร้านอร่อยดี และ 3.หฤโหด Challenge ให้ผู้บริโภคสร้างสรรค์วิดีโอโชว์ความโหด หลังจากที่ได้ทานกะเพราหฤโหดแล้ว ทำให้เกิดคอนเทนท์ครีเอทีพจำนวนมาก เช่น กินแล้วทำเสียงโหด กินแล้วมีไฟออกมา กินแล้วแต่งตัวจัดจ้าน กินแล้วมีหนวดน่าเกรงขาม เป็นต้น
ทั้งนี้ การเลือกแพลตฟอร์ม TikTok เป็นอาวุธในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากเป็นสื่อออนไลน์ที่มีการเติบโตสูง เป็นเทรนด์ที่มาแรงในช่วงที่เกิดโรคโควิด-19 ระบาด โดยจากสถิติของปี 2020 หนึ่งใน 10 วิดีโอที่ได้รับยอดวิวสูงสุดนั้นมีวิดีโอที่เกี่ยวกับอาหารติดอันดับ และได้รับยอดวิวมากถึง 1.2 ล้าน ผู้บริโภคจำนวนมากหันมาดาวน์โหลด และใช้ TikTok มากขึ้น ส่วนรูปแบบของการนำเสนอยังเป็นวิดีโอสั้น 15 วินาที มีฟิลเตอร์ เอ็ฟเฟ็กต์ ลูกเล่นมากมายดึงดูดผู้ใช้งาน ที่สำคัญคอนเทนท์ที่ถูกสร้างสรรค์ออกมามีความสนุก ดูแล้วเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้อย่างยิ่ง จนเกิดปรากฎการณ์แชร์ต่อบนสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ
“TikTok เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มาแรงมากในหมู่ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ จากเจนซี(Z) ขยายวงกว้างมากขึ้นสู่เจนวาย(Y) รวมถึงเจนเอ็กซ์(X) แบรนด์อร่อยดียังดึงอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามหรือ Follower 1 ล้านรายขึ้นไป เช่น Turk_tk, Bowkanyaratp, Meturr ฯ มาร่วมสร้างปรากฏการณ์ต่างๆสนั่นโซเชียลมีเดีย ปลุกกิจกรรมตลาดให้ทรงพลังและมีสีสัน ผ่านการชาเลนจ์รับประทานกะเพราหฤโหด เมนูเรียบง่ายแต่มีความเด็ดในตัว ทุกครั้งที่ผู้บริโภคคิดอะไรไม่ออก ผัดกะเพรามักเป็นคำตอบที่ดีเสมอ แต่ร้านอร่อยดีได้ทำเมนูเรียบง่ายให้มีความพิเศษและรสชาติโดดเด่นไม่เหมือนใคร ปรุงสูตรเมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดา อย่างเมนูยอดฮิต “หฤโหดโคตรกะเพรา”
ทั้งนี้ แคมเปญการตลาด AROIDEE CAMPAIGN@TIKTOK CHALLNGE มีผลตอบรับจากผู้บริโภคดีมาก โดยมีผู้ชมกว่า 1.2 ล้านครั้ง และสร้างเอนเกจเมนต์จำนวนมาก เช่น Turk_tk กว่า 1.47 แสนครั้ง Bowkanyaratp กว่า 2.82 แสนครั้ง และ Meturr กว่า 1.7 แสนครั้ง รวมทั้งแคมเปญ สูงถึง 700 แสนครั้ง เป็นต้น
สำหรับร้านอร่อยดี เปิดให้บริการกว่า 2 ปี จุดแข็งของร้านคือ “รสชาติคุ้น อิ่มครบ จบทุกมื้อ” เราตอบโจทย์ในเรื่องรสชาติที่คุ้นลิ้นและเมนูอาหารที่หลากหลาย สามารถทานได้ทุก Day Part ตั้งเช้า สาย เที่ยง บ่าย เย็น ค่ำ โดยการรับรู้แบรนด์ต่อผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เมนูเด็ดที่ผู้บริโภคนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ(Top of Mind) คือ “หฤโหดโคตรกะเพรา” ซิกเนเจอร์ของร้าน เพราะเป็นกะเพราสูตรดั้งเดิมแต่เพิ่มเติมเรื่องความจัดจ้านจากพริกขี้หนูจินดาแดง ผัดผสมกับกระเทียม เพิ่มความเผ็ดเพิ่มด้วยพริกขี้หนูแห้ง(จินดา) ผัดด้วยซอสสูตรลับจากร้าน และตบท้ายด้วยการโรยพริกทอดทำให้รสชาติกลมกล่อมมีเอกลักษณ์ รวมถึงกลยุทธ์ “ราคา” ที่จับต้องได้เริ่มต้นเพียง 79 บาท (สั่งกลับบ้าน+10 บาท)
“กลยุทธ์การทำตลาดธุรกิจร้านอาหารในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการปรับตัวอย่างรวดเร็วหรือ Agile ค่อนข้างมาก หน้าร้านปิด เรามุ่งเดลิเวอรี่ เสิร์ฟอาหารและความอร่อยตอบโจทย์ผู้บริโภค การทำตลาดในยุคที่ผู้บริโภคไม่สามารถมาเห็นบรรยากาศร้านหรือเปิดดูเมนูต่างๆ เราจึงลุยแคมเปญการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและสัมผัสประสบการณ์กับแบรนด์อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ร้านอร่อยดียังอยู่ในใจกลุ่มเป้าหมาย เมื่อจะสั่งอาหารต้องนึกถึงอร่อยดี และหฤโหดโคตรกะเพรา”